กิจกรรมประจำเดือนสิงหาคม
แค่รู้สึกว่าอยากมีอะไรสนุกๆให้ร่วมเล่นกัน ในปีนี้จึงส่งการ์ดเปล่าๆ ที่วาดลายสติ๊กเกอร์ให้เพื่อนๆช่วยกันออกแบบ+บอกรักและบอกความในใจผ่านกระดาษใบเล็กๆใบนี้ ก็บอกแล้วว่า "โปสการ์หนึ่งใบ แต่มีความหมายมากกว่านั้น" ส่วนจำนวนที่ส่งไปเท่าไรนั้นยังไม่ได้กำหนดจ้า (ขึ้นอยู่กับความขยันและเวลาที่ว่างด้วยอ่ะ แฮะๆ) จริงๆแล้ว จุดประสงค์แค่อยากเพียงเห็นว่า คำบอกรัก จะออกมาน่ารักขนาดไหน อันที่จริงจะส่งการ์ดเปล่าไปเลยด้วยซ้ำนะ แต่เข้าใจว่าหลายคนอาจไม่ถนัดทางด้านขีดๆเขียนๆเท่าไร เลยส่งสติ๊กเกอร์ไปเป็นไกด์ให้เท่านั้นแหละ
สุดท้าย ถ้าทำการ์ดเสร็จแล้ว รบกวนเพื่อนๆช่วย Tag กลับมายัง Facebook ของ Cartolina *(ด้านขวามือ) ด้วยนะจ๊ะ ขอให้สนุกกับกิจกรรมเล็กๆน้อยที่พยายามจะสร้างแรงบันดาลใจคร้า (^;<)b
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
กลับเข้าสู่บ้าน Cartolina*
กลับเข้าสู่บ้าน Cartolina*
ความเป็นมาของวันแม่แห่งชาติในประเทศไทย
วันแม่แห่งชาติ งานวันแม่จัดขึ้นครั้งแรกเมื่อวันที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2486 ณ สวนอัมพร โดยกระทรวงสาธารณสุข แต่ช่วงนั้นเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 งานวันแม่ในปีต่อมาจึงต้องงดไป เมื่อวิกฤติสงครามสงบลง หลายหน่วยงานได้พยายามให้มีงานวันแม่ขึ้นมาอีก แต่ก็ไม่ประสบผลสำเร็จเท่าที่ควร และมีการเปลี่ยนกำหนดวันแม่ไปหลายครั้ง ต่อมาวันแม่ที่รัฐบาลรับรอง คือวันที่ 15 เมษายน โดยเริ่มจัดตั้งแต่ปี พ.ศ. 2493 แต่ก็ต้องหยุดลงอีกในหลายปีต่อมา เนื่องจากกระทรวงวัฒนธรรมถูกยุบไป ส่งผลให้สภาวัฒนธรรมแห่งชาติซึ่งรับหน้าที่จัดงานวันแม่ขาดผู้สนับสนุน
ต่อมาสมาคมครูคาทอลิกแห่งประเทศไทย ได้จัดงานวันแม่ขึ้นอีกครั้ง ในวันที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2515 แต่จัดได้เพียงปีเดียวเท่านั้น จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2519 คณะกรรมการอำนวยการสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ จึงได้กำหนดวันแม่ขึ้นใหม่ให้เป็นวันที่แน่นอน โดยถือเอาวันเสด็จพระราชสมภพของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ วันที่ 12 สิงหาคมเป็นวันแม่แห่งชาติ และกำหนดให้ดอกไม้สัญลักษณ์ของวันแม่ คือ ดอกมะลิ นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
ทำไมจึงใช้ดอกมะลิเป็นดอกไม้ประจำวันแม่
การที่ใช้ดอกมะลิ เป็นสัญลักษณ์วันแม่ ก็เพราะดอกมะลิเป็นดอกไม้ที่มีสีขาวบริสุทธิ์ มีกลิ่นหอมที่หอมไปไกลและหอมได้นาน ผลิดอกได้ทั้งปี อีกทั้งยังนำไปปรุงเป็นเครื่องยาหอมใช้บำรุงหัวใจได้ด้วย ซึ่งคุณสมบัติเหล่านี้เปรียบได้กับความรักอันบริสุทธิ์ลึกซึ้งที่แม่มีต่อลูก เป็นความรักที่เปี่ยมไปด้วยความเมตตากรุณาที่ไม่มีที่สิ้นสุด และไม่มีพิษมีภัย มีแต่ความชุ่มชื่นใจดั่งความหอมของดอกมะลิ
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
แหล่งข้อมูลจาก : http://www.dmc.tv
ดอกมะลิเป็นสัญลักษณ์ของวันแม่
ชื่อ : | มะลิ มะลิลา มะลิหลวง มะลิซ้อน |
ชื่อวิทยาศาสตร์ และชื่อพฤกษศาสตร์ : | Jusminum adenophyllum. |
วงศ์ : | OLEACEAE |
ลักษณะทั่วไป : | เป็น พรรณไม้พุ่มยืนต้นขนาดกลาง แตกกิ่งก้านสาขาออกรอบๆ ลำต้นสูงประมาณ 5 ฟุต ใบเป็นใบเดี่ยวแตกออกเป็นคู่ ไปตามก้านต้นลักษณะใบป้อมมน ปลายใบแหลม โคนใบสอบ ขอบใบเรียบไม่มีจัก ผิวใบเรียบสีเขียวเข้มเป็นมัน ใบยาว 2-3 นิ้ว มีดอกเป็นดอกเดี่ยว ออกเป็นช่อตามปลายยอดหรือปลายกิ่งประมาณ 3-5 ดอก แล้วแต่ชนิดพันธุ์ ดอกมีสีขาวกลิ่นหอม มีทั้งดอกลาและดอกซ้อน ออกดอกตลอดปี |
การขยายพันธุ์ : | เป็นไม้ที่ชอบแสงแดดจัด หรือกลางแจ้ง ต้องการน้ำปานกลาง ปลูกในดินร่วนซุย ขยายพันธุ์โดยการปักชำ หรือตอนกิ่ง |
สรรพคุณทางยา : | มะลินอกจากจะมีกลิ่นหอมไว้ดมแล้ว มะลิดอกแห้งใช้ปรุงเครื่องยาหอมใช้บำรุงหัวใจได้เป็นอย่างดี |
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น